จังหวัดภูเก็ตเตรียมพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันเรือใบชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพรีกัตต้า 4-11 ธ.ค.นี้ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และส่งเสริมการท่องเที่ยวทางทะเล คาดมีเรือเข้าร่วมแข่งขันกว่า 100 ลำ สร้างรายได้เกิดขึ้นในภูเก็ตช่วงการแข่งขันกว่า 100 ล้านบาท
วันที่ 16 พ.ย.53 นายนิวิทย์ อรุณรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นางบังอรรัตน์ ชินะประยูร ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ต นายเอี่ยม ถาวรว่องวงศ์ กรรมการโรงแรมในเครือกะตะกรุ๊ป และนายคันแคน เวอร์ททิงตัน กรรมการจัดการแข่งขันเรือใบชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพรีกัตต้า ร่วมแถลงข่าว การแข่งขันเรือใบชิงถ้วยพระราชทานภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า ครั้งที่ 24 ณ.ห้องประชุมศาลกลางจังหวัดภูเก็ต ว่า
การจัดการแข่งขันเรือใบชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพรีกัตต้า ครั้งที่ 24 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4 - 11 ธ.ค. 2553 บริเวณหาดกะตะ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและส่งเสริมการท่องเที่ยวทางทะเลของจังหวัดภูเก็ต เพราะการแข่งขันในแต่ละปีมีจำนวนเรือใบเข้าร่วมการแข่งขันกว่า 100 ลำ พร้อมนักกีฬากว่า 2,000 คน จากทั่วโลกร่วมลงแข่งขันแล่นใบบนท้องทะเลอันสวยงามของภูเก็ตเพื่อการขับเคี่ยวชิงชัยถ้วยรางวัลพระราชทานอันทรงเกียรติ
การแข่งขันภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า ประจำปีนี้มีเรือที่ตอบรับเข้าร่วมการแข่งขันแล้ว 97 ลำจากทุกทวีปทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งได้แก่ ฮ่องกง สิงคโปร์ จีน มาเลเซีย ฟิลิปปินส์และประเทศไทยเจ้าภาพ ซึ่งการแข่งขันในปี 2552 ที่ผ่านมาถือเป็นบันทึกประวัติศาสตร์หน้าสำคัญของรายการคิงส์คัพ รีกัตต้า ด้วยจำนวนเรือใบถึง 111 ลำจากกว่า 30 ประเทศทั่วโลก โดยจากการสำรวจของ Infinity Communications & Consultant พบว่างานนี้ก่อให้เกิดเงินสะพัดสูงถึง 40 ล้านบาท เฉพาะห้องพักและการจับจ่ายในช่วงสัปดาห์ของงานรีกัตต้า หากรวมเรื่องการเดินทางด้วยเที่ยวบิน การเดินทางทั่วไป การท่องเที่ยวระยะสั้นและค่าใช้จ่ายอื่นๆ แล้ว พบว่างานภูเก็ต คิงส์คัพ รีกัตต้า ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจของท้องถิ่นเป็นจำนวนเงินสูงกว่า 100 ล้านบาท
การแข่งขันเรือใบชิงถ้วยพระราชทานภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า ได้รับการยอมรับว่าเป็นรายการแข่งขันรีกัตต้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเอเชีย และในปีนี้มีทีมเรือที่ตอบรับเข้าร่วมแล้วกว่า 97 ลำ ซึ่งเราคาดหวังว่า จำนวนเรือที่เข้าร่วมแข่งขันในปีนี้จะมีมากกว่าปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังมีนักแล่นเรืออีกจำนวนมากจากทั่วเกาะภูเก็ตที่สนใจเข้าร่วมแข่งขันชิงถ้วยพระราชทานในครั้งนี้
ผลสำรวจยังพบว่าผู้เข้าแข่งขันหลายคนเป็นนักท่องเที่ยวที่เคยมาเยือนเกาะภูเก็ตแล้ว ซึ่งโดยเฉลี่ยเคยมาท่องเที่ยวที่ภูเก็ตเกินกว่าห้าครั้ง จึงแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าภูเก็ตยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อในด้านการท่องเที่ยวทางทะเลอีกด้วย
สำหรับปี 2553 นี้ จังหวัดภูเก็ตและงานภูเก็ต คิงส์คัพ รีกัตต้า ยังได้รับรางวัลการรันตีในระดับนานาชาติอีกด้วย โดยจังหวัดภูเก็ตได้รับการโหวตให้เป็น “นครแห่งการท่องเที่ยวทางทะเลของเอเชีย (Best Asian Maritime Capital)” จากงาน 2010 Asia Boating Awards ในขณะที่งานภูเก็ต คิงส์คัพ รีกัตต้า ก็ได้รับการประกาศให้เป็น “รายการแข่งขันรีกัตต้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเอเชีย (Asian Regatta Of The Year)” จากงาน Asia Marine & Boating Awards ประจำปี 2553
นอกจากนี้ การแข่งขันในปีนี้ยังมีความพิเศษ คือ การจัดการแข่งขันเรือใบประเภทอ็อฟติมิสต์ (Optimist Class) สำหรับนักแล่นใบเยาวชน ภายใต้ชื่อ รายการภูเก็ต ดิงกี้ ซีรี่ส์ (Phuket Dinghy Series) โดยมีจัดการแข่งขันทั้งหมด 4 ครั้ง เริ่มการแข่งขันครั้งแรก คือ เดือนก.ย. และจัดต่อเนื่องทุกเดือน โดยครั้งที่ 4 นั้นจะจัดในช่วงสัปดาห์แรกของภูเก็ต คิงส์คัพ รีกัตต้า ซึ่งจะมีเยาวชนมากมายจากหลายจังหวัดเข้าร่วมในการแข่งขัน อาทิ จากชลบุรี สงขลา สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พังงาและภูเก็ตเจ้าภาพ ทั้งนี้เพื่อเป็นการส่งเสริมเยาวชนและประชาชนทั่วไปเข้ามามีส่วนร่วมในกีฬาการแข่งขันเรือใบมากยิ่งขึ้น
รายการภูเก็ต ดิงกี้ ซีรี่ส์ (Phuket Dinghy Series) ถือเป็นการนำร่องเพื่อส่งเสริมให้เยาวชนและประชาชนทั่วไปร่วมมีส่วนร่วมในการแข่งขันเรือใบ โดยในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีนักแล่นใบเยาวชนถึง 17 คนเข้าร่วมแข่งขันเรือใบในประเภทอ็อฟติมิสต์ และหวังว่าจะมีเยาวชนมาร่วมแข่งขันในสัปดาห์สุดท้ายที่จะจัดขึ้นในช่วงภูเก็ต คิงส์คัพ รีกัตต้า มีจำนวนมาก
โดยผู้ชนะจากการแข่งขันรายการนี้รวมจะได้รับถ้วยรางวัลพระราชทาน โดยกำหนดจัดพิธีมอบรางวัลในวันที่ 11 ธันวาคม ณ กะตะ บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา โดยได้รับเกียรติจากหม่อมหลวงอัศนี ปราโมช องคมนตรี ผู้แทนพระองค์ฯเป็นผู้มอบรางวัล
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการ ออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็นทั่วไป