เมื่อเวลาประมาณ09.30น.วันที่12มีนาคมนี้ที่ห้องประชุมอาคารวิทยาลัยชุมชนมหาวิทยาลัยสง ขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต สะพานหิน อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต นายสมิทธิ์ ปาลวัฒน์วิไชย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดการอบรมหลักสูตร การพัฒนาบุคคล-เอกลักษณ์ความเป็นไทย รุ่นที่ 3 ภายใต้โครงการต้นกล้าอาชีพ สำหรับมัคคุเทศก์ ตามโครงการของรัฐบาล ที่ทางสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย ร่วมกับสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพภูเก็ตจัดขึ้น โดยมีมัคคุเทศก์สาขาต่างๆ เข้าร่วมอบรมจำนวนประมาณ 100 คน และการอบรมจะมีไปจนถึงวันที่ 31 มีนาคมนี้ โดยมีการบรรยายความรู้ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ เช่น พระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พุทธศักราช2551 วิธีปฏิบัติงานมัคคุเทศก์-มาตรฐานการนำทัวร์ จิตวิทยาบริการ ประวัติศาสตร์-สังคมไทย พฤติกรรมนักท่องเที่ยว-ความแตกต่างวัฒนธรรม ความรู้ด้านโรงแรมรวมทั้งเรื่องการตลาดเชิงรุก-เชิงรับ เป็นต้น
นายพนมพล ธรรมชาตินิยม นายกสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพภูเก็ต กล่าวว่า โครงการอบรมหลักสูตร การพัฒนาบุคคล-เอกลักษณ์ความเป็นไทย ภายใต้โครงการต้นกล้าอาชีพ เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากรทางการท่องเที่ยว และเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจตามนโยบายรัฐบาลในภาวะที่เกิดวิกฤติทางเศรษฐกิจ จนปัจจุบันได้เริ่มผ่อนคลายลง และโครงการดังกล่าวทางรัฐบาลประกาศปิดโครงการภายในสิ้นเดือนมีนาคมนี้ ทำให้การอบรมโครงการต้นกล้าอาชีพ สำหรับมัคคุเทศก์รุ่นที่ 3 เป็นการอบรมรุ่นสุดท้ายของโครงการฯด้วย
อย่างไรก็ตามผลที่ได้รับจากโครงการทำให้มัคคุเทศก์ที่ประสบกับปัญหาวิกฤตมีงานมีรายได้ สามารถใช้เวลาที่วิกฤติเป็นโอกาสในการเพิ่มพูนศักยภาพด้านความรู้ความสามารถและประสบการณ์ เพื่อให้มีความพร้อมเมื่อการท่องเที่ยวฟื้นตัวก็สามารถนำความรู้ ความสามารถต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นจากการอบรมไปประยุกต์ใช้ในการทำงาน เพื่อสร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยวได้รับความพึงพอใจ และอยากกลับมาเยือนประเทศไทยอีกเมื่อมีโอกาส
ข้อมูลจาก :: ชัยวุฒิ พวงสุวรรณ สวท. ภูเก็ต
---------------------------------------------------------------------
ทำไมไม่จัดการอบรมพวกแท๊กซี่บ้าง ทุกวันนี้แท๊กซี่สามารถพานักท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ โดยไม่ต้องอาศัยไกด์แล้ว และยังด่าทอ พูดให้มัคคุเทศก์เสียหายมากมาย ไม่เห็นมีใครดำเนินการปกป้องไกด์สักคน มีแต่ปล่อยให้พวกบริษัทท่องเที่ยวเอาเปรียบมัคคุเทศก์ทุกวันนี้ไกด์ทำงานเงินเดือนก็ไม่มี สวัสดิการบริษัทไม่เคยให้ เอาเปรียบไกด์ทุกวิถึทาง ทำไมสมาคมไม่มีนโยบายช่วยเหลือให้ไกด์มีเงินเดือนบ้าง มีสวัสดิการจากบริษัทบ้าง แล้วไกด์จะได้มีกำลังใจช่วยส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวประทับใจในคนไทยมากๆ ไหนบอกว่าอาชีพไกด์เป็นหน้าตาของประเทศชาติ แล้วทำไมคนไทยด้วยกัน อย่างพวกแท๊กซี่ ถึงชอบ ตบแต่งให้ไกด์ดูหน้ากลัวในสายตาของนักท่องเที่ยว พวกบริษัททัวร์ก็เอาเปรียบไกด์ทุกอย่าง แล้วอย่างนี้นักท่องเที่ยวจะเห็นหน้าตาที่สวยงามของประเทศไทยได้ไง
ตอบลบต้องยอมรับกันว่า นี่คือความจริงที่แสนเจ็บปวด ซึ่งมีอยู่จริง ในวงการท่องเที่ยวของประเทศไทย
ตอบลบผมจะCopy ความคิดเห็นนี้ ไปไว้ที่ เว็บ "ชำนาญ เขียน" เผื่อว่าผู้มีอำนาจได้เข้ามาอ่านพบเข้า ต่อมความรับผิดชอบของท่าน อาจจะทำงานขึ้นมาบ้าง
แล้วแท๊กซี่ก็ชอบไปบอกนักท่องเที่ยวว่าไปไหนกับไกด์ไกด์ได้ค่าคอมมิชชั่น ทำไมไม่บอกด้วยว่าคุณก็ได้มากกว่าเราเสียอีก เราต้องแบ่งบริษัท แต่คุณเองได้เต็มๆ ทำไมเป็นคนไทยด้วยกันไม่เห็นใจคนไทยด้วยกันเลย ตัดราคากันเอง ไม่ช่วยกันรักษามาตรฐานของบ้านเราเลย สุดท้ายแล้ว สิ่งที่คุณทำ มันจะย้อนกลับมาเล่นงานคุณเองในวันข้างหน้า ลูกหลานเราเองนั่นแหละจะลำบาก
ตอบลบคุณรู้ไม๊ อาชีพไกด์เป็นอาชีพที่มีเกียรติ เชิดหน้าชูตาเป็นด่านแรกของประเทศ เป็นอาชีพที่มีศักด์ศรี เรา
ตอบลบมีความภูมิใจแค่ไหนเวลาที่ชาวต่างชาติประท้บใจในตัวเ
ราเขาก็จะรักประเทศเราด้วย
แต่คุณรู้ไม๊ว่าเบื้องหลังไกด์ภูเก็ตมันขมขื่นแค่ไหน คนประเทศเดียวกันเขาตราหน้าว่าเราชอบหลอกลวงนักท่องเที่ยวเอาเปรียบนักท่องเที่ยวสารพัดจะพูด แล้วเวลาที่ไกด์ถูกบริษัททัวร์มันเอาเปรียบล่ะ สารพัดจะข่มเหง รีดไถนักท่องเที่ยวโดยใช้ไกด์เป็นเครื่องมือ มันรวยเอา รวยเอา แต่เราซิเป็นกันชนให้มัน ต้องยอมมันสารพัด ก็เพราะคำๆเดียวคือ กลัวมันไม่ส่งแขกให้เราทำ ม้นคิดจะไม่ให้งานเรา เราก็พูดไม่ออก กินแกลบนอนอยู่บ้านไปแล้วกัน พูดมากก็ไม่ได้ เพราะมันถือว่าเราต้องง้อมัน ไอ้พวกบริษัททัวร์ต่างชาติเราเองยังพอทำใจ ได้แต่ด่าพ่อล่อแม่มันลับหลัง แต่คุณรู้ไม๊ว่าบริษัทคนไทยเราเองนี่สิมันแสนล้านจะเจ็บปวดยิ่งกว่า เอ่เปรียบคนไทยกันเอง ใช้ไกด์เหมือนหมา ไม่เคยให้เกียรต์ไกด์ เงินเดือนก็ไม่มี สวัสดิการก็ไม่มี แถมถ้าไม่เลียแข้งเลียขามันมันก็ไม่ให้งานทำ น่าสงสารชีวิตไกด์ภูเก็ตไม๊ล่ะท่าน วอนใครช่วยเหลือไกด์ได้ก็ช่วยทีเถอะ