เอเย่นต์ทัวร์โตเกียว ร่วมงานอะเมซิ่งไทยแลนด์โรดโชว์โตเกียว กว่า 200 ราย ด้าน ททท.มั่นใจปีนี้ นทท.ญี่ปุ่นเดินทางเข้าประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 1.2 ล้านคน
เมื่อเร็วๆนี้ ที่โรงแรมอิมพีเรียล โฮเทล โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น จังหวัดภูเก็ต นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต (อบจ.ภูเก็ต) และนายพงษ์อนันต์ สุวัณณาคาร นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต นำผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต จำนวน 21 ราย เข้าร่วมงาน “อะเมซิ่งไทยแลนด์อินญี่ปุ่น 2012 ณ เมืองโตเกียว ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดขึ้น เพื่อส่งเสริมและกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวญี่ปุ่น ตลอดจนเพื่อนำเสนอสินค้าท่องเที่ยวใหม่ๆ ให้กับผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวของโตเกียว ซึ่งให้ความสนใจมาร่วมงานดังกล่าวจำนวน 212 ราย ได้รับทราบ โดยมีผู้ประกอบการของประเทศไทยนอกจากจังหวัดภูเก็ตแล้วยังมีผู้ประกอบการ ด้านการท่องเที่ยวจังหวัดอื่นๆ เช่น กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ลำปาง แม่ฮ่องสอน เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม นอกจากการให้ความรู้เกี่ยวกับตลาดท่องเที่ยวของญี่ปุ่นและแนะนำสินค้าการ ท่องเที่ยวของผู้ประกอบการแล้ว ยังมีการจัดกิจกรรมให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นซึ่งเป็นผู้ซื้อได้ พบปะกับผู้ประกอบการของไทยซึ่งเป็นผู้ขายโดยตรง หลังจากนั้นก็ได้มีการจัดงานเลี้ยง ซึ่งได้รับเกียรติจาก นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล เอกอัครราชทูต ณ นครโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เป็นประธานเปิดงาน นอกจากนี้ยังมีแขกผู้มีเกียรติมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก อาทิ นายอักกะพล พฤกษะวัน ที่ปรึกษา 11 ททท., นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต, นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายก อบจ.ภูเก็ต, นายอำนวย เทียมกีรกุล ผู้อำนวยการกองการตลาดเอเชียตะวันออก ททท,,นางณิตยา อ่วมพิทยา ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานโตเกียว,นายทัสซึโร นาคามุระ Seninon Executive Director of the Board Japan Association of Travel Agents (JATA) เป็นต้น
นายอำนวย เทียมกีรกุล ผู้อำนวยการกองการตลาดเอเชียตะวันออก กล่าวว่า จากการจัดงานที่โตเกียวนับว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยมีผู้ประกอบการท่องเที่ยวของโตเกียวเข้าร่วมงานมากถึง 212 ราย โดยคาดว่าจะเห็นผลในแง่ของธุรกิจอีกประมาณ 1-2 เดือน อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ทาง ททท. คาดว่าจะมีการจัดงานในลักษณะนี้ในประเทศญี่ปุ่นได้ปีเว้นปี เพราะในการทำตลาดญี่ปุ่นนั้นจะแตกต่างจากตลาดทั่วไป เนื่องจากทางผู้ขายจะต้องมีการทำความรู้จักเบื้องต้นกับผู้ซื้อชาวญี่ปุ่น ก่อนด้วยการแลกเปลี่ยนนามบัตร หรือการแนะนำผลิตภัณฑ์ กลังจากนั้นจึงจะได้มีการติดต่อซื้อขายสินค้ากันต่อไปในอนาคต
“ในปีนี้ทาง ททท.ได้ตั้งเป้าไว้ว่าจะมีนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเดินทางเข้าประเทศไทยเป็น จำนวนกว่า 1,200,000 คน ซึ่งขณะนี้ตัวเลขของนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นที่เดินทางเข้าไปในประเทศไทยใน ช่วงเดือน ม.ค.-มิ.ย.55 มีจำนวน 800,000 กว่าคนแล้ว แม้ว่าในช่วงปลายปีที่แล้วประเทศไทยจะประสบปัญหาน้ำท่วมอย่างหนักแต่จำนวน นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นก็ไม่ได้ลดน้อยลง ดังนั้นเชื่อว่าหากไม่มีอุปสรรคจากปัญหาน้ำท่วมในประเทศไทย และปัญหาจากซึนามิในประเทศญี่ปุ่นเอง รวมถึงปัจจัยอื่นๆ ที่อาจจะส่งผลกระทบก็เชื่อว่าจำนวนนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นจะมีมากกว่านี้” นายอำนวยกล่าว
ขณะที่นางณิตยา อ่วมพิทยา ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานโตเกียว กล่าวว่า ในปีนี้เป้าหมายนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นนอกจากกลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วไปแล้ว ยังมีเป้าหมายในการเจาะตลาดผู้หญิง ซึ่งเป็นผู้ที่มีส่วนสำคัญในการตัดสินใจเลือกเดินทางท่องเที่ยว กับกลุ่มนักเรียนซึ่งกลุ่มนี้ในอดีตมีจำนวนมาก แต่ปัจจุบันลดลงเนื่องจากปัญหาการเมืองภายในประเทศของเรา รวมทั้งการจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ของประเทศไทย เพื่อขยายตลาดให้กว้างมากขึ้น ทั้งนี้ทางรัฐบาลยังได้ให้การสนับสนุนงบประมาณกับสายการบินต่างๆ ในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกันสายการบินละประมาณ 100,000 บาท
เมื่อเร็วๆนี้ ที่โรงแรมอิมพีเรียล โฮเทล โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น จังหวัดภูเก็ต นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต (อบจ.ภูเก็ต) และนายพงษ์อนันต์ สุวัณณาคาร นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต นำผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต จำนวน 21 ราย เข้าร่วมงาน “อะเมซิ่งไทยแลนด์อินญี่ปุ่น 2012 ณ เมืองโตเกียว ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดขึ้น เพื่อส่งเสริมและกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวญี่ปุ่น ตลอดจนเพื่อนำเสนอสินค้าท่องเที่ยวใหม่ๆ ให้กับผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวของโตเกียว ซึ่งให้ความสนใจมาร่วมงานดังกล่าวจำนวน 212 ราย ได้รับทราบ โดยมีผู้ประกอบการของประเทศไทยนอกจากจังหวัดภูเก็ตแล้วยังมีผู้ประกอบการ ด้านการท่องเที่ยวจังหวัดอื่นๆ เช่น กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ลำปาง แม่ฮ่องสอน เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม นอกจากการให้ความรู้เกี่ยวกับตลาดท่องเที่ยวของญี่ปุ่นและแนะนำสินค้าการ ท่องเที่ยวของผู้ประกอบการแล้ว ยังมีการจัดกิจกรรมให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นซึ่งเป็นผู้ซื้อได้ พบปะกับผู้ประกอบการของไทยซึ่งเป็นผู้ขายโดยตรง หลังจากนั้นก็ได้มีการจัดงานเลี้ยง ซึ่งได้รับเกียรติจาก นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล เอกอัครราชทูต ณ นครโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เป็นประธานเปิดงาน นอกจากนี้ยังมีแขกผู้มีเกียรติมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก อาทิ นายอักกะพล พฤกษะวัน ที่ปรึกษา 11 ททท., นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต, นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายก อบจ.ภูเก็ต, นายอำนวย เทียมกีรกุล ผู้อำนวยการกองการตลาดเอเชียตะวันออก ททท,,นางณิตยา อ่วมพิทยา ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานโตเกียว,นายทัสซึโร นาคามุระ Seninon Executive Director of the Board Japan Association of Travel Agents (JATA) เป็นต้น
นายอำนวย เทียมกีรกุล ผู้อำนวยการกองการตลาดเอเชียตะวันออก กล่าวว่า จากการจัดงานที่โตเกียวนับว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยมีผู้ประกอบการท่องเที่ยวของโตเกียวเข้าร่วมงานมากถึง 212 ราย โดยคาดว่าจะเห็นผลในแง่ของธุรกิจอีกประมาณ 1-2 เดือน อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ทาง ททท. คาดว่าจะมีการจัดงานในลักษณะนี้ในประเทศญี่ปุ่นได้ปีเว้นปี เพราะในการทำตลาดญี่ปุ่นนั้นจะแตกต่างจากตลาดทั่วไป เนื่องจากทางผู้ขายจะต้องมีการทำความรู้จักเบื้องต้นกับผู้ซื้อชาวญี่ปุ่น ก่อนด้วยการแลกเปลี่ยนนามบัตร หรือการแนะนำผลิตภัณฑ์ กลังจากนั้นจึงจะได้มีการติดต่อซื้อขายสินค้ากันต่อไปในอนาคต
“ในปีนี้ทาง ททท.ได้ตั้งเป้าไว้ว่าจะมีนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเดินทางเข้าประเทศไทยเป็น จำนวนกว่า 1,200,000 คน ซึ่งขณะนี้ตัวเลขของนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นที่เดินทางเข้าไปในประเทศไทยใน ช่วงเดือน ม.ค.-มิ.ย.55 มีจำนวน 800,000 กว่าคนแล้ว แม้ว่าในช่วงปลายปีที่แล้วประเทศไทยจะประสบปัญหาน้ำท่วมอย่างหนักแต่จำนวน นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นก็ไม่ได้ลดน้อยลง ดังนั้นเชื่อว่าหากไม่มีอุปสรรคจากปัญหาน้ำท่วมในประเทศไทย และปัญหาจากซึนามิในประเทศญี่ปุ่นเอง รวมถึงปัจจัยอื่นๆ ที่อาจจะส่งผลกระทบก็เชื่อว่าจำนวนนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นจะมีมากกว่านี้” นายอำนวยกล่าว
ขณะที่นางณิตยา อ่วมพิทยา ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานโตเกียว กล่าวว่า ในปีนี้เป้าหมายนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นนอกจากกลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วไปแล้ว ยังมีเป้าหมายในการเจาะตลาดผู้หญิง ซึ่งเป็นผู้ที่มีส่วนสำคัญในการตัดสินใจเลือกเดินทางท่องเที่ยว กับกลุ่มนักเรียนซึ่งกลุ่มนี้ในอดีตมีจำนวนมาก แต่ปัจจุบันลดลงเนื่องจากปัญหาการเมืองภายในประเทศของเรา รวมทั้งการจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ของประเทศไทย เพื่อขยายตลาดให้กว้างมากขึ้น ทั้งนี้ทางรัฐบาลยังได้ให้การสนับสนุนงบประมาณกับสายการบินต่างๆ ในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกันสายการบินละประมาณ 100,000 บาท
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็นทั่วไป