วันศุกร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2555

กลุ่มแอมเวย์จีนทำรายได้เข้าไทยกว่า 2,500 ล้าน โรตารีสากลจ่อคิวเข้าอีก 35,000 คน ต้นพ.ค.นี้


สสปน.ผนึกกำลัง จังหวัดภูเก็ต และททท.ต้อนรับกลุ่มอินเซนทีฟ ไฮไลน์แห่งปี แอมเวย์ 2012จากจีน คาดทำรายได้เข้าประเทศกว่า 2,500 ล้านบาท เผยคณะแอมเวย์กว่า 6,000 คน ที่เข้ามาประทับใจจังหวัดภูเก็ต ขณะที่ สสปน.คาดกลุ่มไมซ์เข้าไทยตามเป้าหมายที่วางไว้ 750,000 คน ทำรายได้เข้าประเทศเกิน 60,000 ล้านบาท กลุ่มโรตารีสากลจ่อคิวเข้าอีก 35,000 คน 6-9 พ.ค.นี้
       เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 26 เม.ย.55 ที่ห้องประชุม ภูเก็ตแฟนตาซี ต.กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต นายชัยพร พัฒนรักษ์ หัวหน้ากลุ่มงานยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด สำนักงานจังหวัดภูเก็ต นายธงชัย ศรีดามา กรรมการปฏิบัติหน้าที่แทนผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) นายสรรเสริญ เงารังษี รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และนายมาร์ติน หลิว รองประธานกรรมการบริหารกลุ่มประเทศจีน ไต้หวัน และฮ่องกง ผู้อำนวยการสถาบันฝึกอบรมแอมเวย์ประเทศจีน ร่วมแถลงข่าวการประชุม “AMWAY 2012
       นายชัยพร พัฒนรักษ์ หัวหน้ากลุ่มงานยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด สำนักงานจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การที่ประเทศไทยได้รับการคัดเลือกให้เป็นจุดหมายปลายทางของการเดินทางแบบท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลของบริษัทแอมเวย์ จำกัด ซึ่งมีจำนวนผู้เดินทางเข้ามามากกว่า 15,000 คน นั้นถือว่าเป็นส่วนสำคัญที่เป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นในประเทศไทย และภูเก็ต ของผู้ประกอบการจากประเทศจีน ซึ่งภูเก็ตมีศักยภาพและความหลากหลายในการเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว และนักธุรกิจจากทั่วทุกมุมโลก จึงทำให้รัฐบาลให้ความสำคัญในการเพิ่มการจัดสรรงบประมาณด้านโครงสร้างพื้นฐานในการพัฒนาจังหวัด เช่น การพัฒนาระบบขนส่งมวลชนอย่างรถไฟฟ้าขนาดเบา 3 เส้นทางรอบเกาะภูเก็ต การพัฒนาท่าเทียบเรือน้ำลึก ท่าเรือบางโรง โดยเฉพาะท่าเทียบเรืออ่าวฉลองที่มีการพัฒนาให้เป็นมารีนาสำหรับจอดเรือยอชต์ได้มากขึ้น และให้บริการแบบศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จ
       จังหวัดภูเก็ตเป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวระดับโลก และด้วยความพร้อมทางด้านสาธารณูปโภคพื้นฐานสำหรับอุตสาหกรรมไมซ์ ภูเก็ตจึงได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนให้เป็นหนึ่งในนครแห่งไมซ์ของประเทศไทย นอกเหนือจากกรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ เมืองพัทยา ชลบุรี และเพื่อให้ภูเก็ตเป็นจุดหมายของผู้เดินทางกลุ่มไมซ์ จังหวัดจึงได้จัดแพกเกจเพื่อต้อนรับผู้ที่สนใจจะจัดงานไมซ์จากภูเก็ต เช่น ช่องทางพิเศษสนามบินภูเก็ต และการรักษาความปลอดภัยเป็นการพิเศษ
       ในแต่ละปีจังหวัดภูเก็ตมีโอกาสต้อนรับผู้เดินทางกลุ่มไมซ์ คิดเป็นร้อยละ 10 ของนักท่องเที่ยวทั่วไป โดยตลาดใหญ่ที่เข้ามาจะเป็นกลุ่มยุโรป อเมริกา และเอเชีย ตามลำดับ นับเป็นธุรกิจที่นำเงินเข้ามาหมุนเวียนในภูเก็ตจำนวนมาก เราเชื่อมั่นว่า การเตรียมการต้อนรับคณะแอมเวย์ของทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่ออำนวยความสะดวกทั้งการประชุมที่ภูเก็ตแฟนตาซี หมู่เกาะต่างๆ รอบเกาะภูเก็ต ทุกโรงแรม และแหล่งท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้อง โดยจัดตั้งคณะทำงานล่วงหน้าเพื่อการต้อนรับ และสร้างความประทับใจให้ผู้เข้าร่วมประชุมแอมเวย์ทุกคน
       ด้านนายธงชัย ศรีดามา กรรมการปฏิบัติหน้าที่แทนผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า สสปน.มีเป้าหมายภาพรวมอุตสาหกรรมไมซ์ปี 2555 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวกลุ่มไมซ์ชาวต่างประเทศ เข้ามาในประเทศไทยจำนวน 750,000 คน สร้างรายได้เข้าสู่ประเทศกว่า 60,120 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนกลุ่มการประชุม และท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลสูงสุด ถึง 45% และในปี 2555 นี้ คาดว่าจะมีจำนวนผู้เดินทางกลุ่มนี้ประมาณ 378,000 คน สร้างรายได้กว่า 27,000 ล้านบาท
       ในส่วนของตลาดไมซ์จากจีนนั้น ปัจจุบัน เดินทางมาจาก 3 เมืองหลักของจีน ได้แก่ ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และกวางเจา เนื่องจากชาวจีนมีรายได้ที่สูงขึ้นตามความเจริญเติบโตของเศรษฐกิจประเทศ ทำให้มีความต้องการเดินทางออกนอกประเทศเพื่อการท่องเที่ยวมากขึ้น ที่สำคัญเน้นความหรูหรามีระดับเพื่อการประชุมและพักผ่อนในเมืองชายทะเลที่สวยงาม ทำให้เกิดการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงกว่านักท่องเที่ยวปกติถึง ร้อยละ 30 และที่ผ่านมานักท่องเที่ยวกลุ่มไมซ์จากประเทศจีนที่มาประเทศไทยมีสูงเป็นอันดับ 2 รองจากประเทศอินเดีย และมีอัตราเติบโตเฉลี่ยเพิ่มขึ้น ร้อยละ 15-20 ต่อปี และยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องแบบก้าวกระโดด เนื่องจากทางการจีนมีการผ่อนผันในเรื่องของกฏควบคุมการเดินทางของชาวจีนในประเทศทำให้มีการเดินทางออกนอกประเทศของชาวจีนเพิ่มขึ้น
       การประชุมของกลุ่มแอมเวย์จากประเทศจีนในครั้งนี้นับเป็นการประชุมและเป็นการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลของนักธุรกิจชั้นนำในรูปแบบองค์กรที่จะก่อให้เกิดรายได้สูงกว่านักท่องเที่ยวทั่วไปกว่า 2-3 เท่า ทาง สสปน. สนับสนุนให้งบประมาณตลอดจนการประสานงานทั้งภาครัฐและเอกชน ไม่ว่าททท. สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ศุลกากร ตำรวจท่องเที่ยว แหล่งท่องเที่ยว โรงแรม บริษัทขนส่งต่างๆ เพื่อร่วมกันต้อนรับ และอำนวยความสะดวกแก่ผู้เข้าร่วมประชุม โดยประมาณการรายได้ ผู้เข้าร่วมประชุม 15,000 คน จะสร้างรายได้สู่ระบบเศรษฐกิจของประเทศกว่า 25,000 ล้านบาท
       นายธงชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากกลุ่มแอมเวย์จากจีนแล้ว ในระหว่างวันที่ 6-9 พ.ค.2555 นี้ ทางสโมสรโรตารีสากลจะเดินทางมาประชุมประจำปี 2555 ที่ประเทศไทย กว่า 35,000 คน ซึ่งคาดว่าจะสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งการเข้ามาของทั้ง 2 กลุ่มจะทำให้เป้าหมายของ สสปน.เป็นไปตามที่วางไว้ในปี 2555 จำนวน 750,000 คน รายได้กว่า 60,000 ล้านบาท
       ขณะที่นายสรรเสริญ เงารังษี รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดนักท่องเที่ยวจีนเป็นตลาดเป้าหมายที่สำคัญของประเทศไทย สถานการณ์ตลาดจีนในช่วงที่ผ่านมามีอัตราการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในปี 2554 มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาจำนวน 1,760,564 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 56.88 จากปี 2553 สร้างรายได้ให้ประเทศจำนวน 58,001.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 68.77 ซึ่งชี้ให้เห็นถึงศักยภาพของตลาดนี้ การที่บริษัทแอมเวย์จีน ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่เลือกภูเก็ตเป็นสถานที่จัดประชุมในครั้งนี้ จะสร้างชื่อเสียงให้จังหวัดภูเก็ตเป็นที่รู้จักและเป็นที่ยอมรับในฐานะแหล่งท่องเที่ยวคุณภาพในกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มไมซ์ ซึ่งเป็นกลุ่มตลาดที่มีศักยภาพกลุ่มหนึ่งของจีน โดยการว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้จะทำให้บริษัทเอกชนขนาดใหญ่ของจีนเดินทางเข้ามาจัดประชุมและท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มขึ้นในอนาคต
       นายสรรเสริญ กล่าวอีกว่า สิ่งที่ประเทศไทยและจังหวัดภูเก็ตจะได้รับจากการประชุมของคณะแอมเวย์ที่นอกเหนือจากรายได้ที่จะเกิดขึ้นกว่า 2,500 ล้านบาท คือภาพลักษณ์ที่ดี และทัศนคติที่ดีที่ชาวจีนจะกล่าวถึงภูเก็ตและประเทศไทย เพราะผู้เข้าร่วมประชุม ร้อยละ 94 พอใจกับการเดินทางมาประชุมที่จังหวัดภูเก็ต รวมทั้งความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างไทยกับจีนที่จะแนบแน่นยิ่งขึ้น รวมไปถึงจังหวัดภูเก็ตจะได้ใช้การประชุมแอมเวย์เป็นแบบอย่างในการต้อนรับคณะผู้เข้าประชุมคณะใหญ่ๆ ต่อไป
       ด้านนายมาร์ติน หลิว รองประธานกรรมการบริหารกลุ่มประเทศจีน ไต้หวัน และฮ่องกง ผู้อำนวยการสถาบันฝึกอบรมแอมเวย์ประเทศจีน กล่าวว่า การประชุมนักธุรกิจแอมเวย์ระดับสูง 2012 ที่จัดขึ้นที่จังหวัดภูเก็ต ถือเป็นประวัติศาสตร์ของแอมเวย์ประเทศจีนที่มีสถิติของผู้เข้าร่วมในครั้งนี้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่มีมากถึง 16,000 คน ตั้งแต่วันที่ 15 เม.ย.-15 พ.ค.55 โดยแบ่งเป็น 7 คณะใหญ่ 21 คณะย่อย มีการจัดงานกาลาดินเนอร์ หรืองานฉลองใหญ่ที่ภูเก็ตแฟนตาซีมากถึง 7 ครั้ง ใช้รถบัสมากกว่า 100 คัน ในการขนส่งผู้เข้าร่วมประชุม โดยการประชุมในครั้งนี้ใช้งบประมาณของบริษัทมากกว่าพันล้านบาท ซึ่งไม่รวมงบประมาณส่วนตัวของผู้เดินทางที่ต้องใช้จ่ายส่วนตัวอีกต่างหาก
       การเลือกภูเก็ตเป็นเป็นสถานที่จัดประชุมในครั้งนี้เป็นการเลือกจุดหมายที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงทั้งทางด้านความสวยงามทางธรรมชาติ ความมีเอกลักษณ์ที่มีน้ำใจของคนไทย และอาหารที่อร่อย ทางแอมเวย์จีนหวังว่าจะสามารถช่วยสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างคนไทยและคนจีนให้ดียิ่งขึ้น และที่สำคัญช่วยกระตุ้นและยกระดับการเติบโตของเศรษฐกิจของไทยให้ดียิ่งขึ้น
       นายมาร์ติน กล่าวอีกว่า วันนี้เป็นวันที่ 26 เม.ย.ผ่านมา 10 วัน คณะแอมเวย์เข้ามาภูเก็ตแล้ว 6,300 คน ทุกคนที่เข้ามารู้สึกดีกับจังหวัดภูเก็ต และซาบซึ่งในน้ำใจของคนภูเก็ต และทางแอมเวย์ต้องขอขอบคุณจังหวัดภูเก็ต ททท. สปปน.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการอำนวยความสะดวกแก่คณะเป็นอย่างดี
       จังหวัดภูเก็ตเป็นสถานที่ที่คณะแอมเวย์มาเดินทางเข้ามา เพราะเมื่อบอกว่าในปีนี้จะเดินทางมาภูเก็ตทำให้ยอดขายโตกว่า 10% และยอดขายของแอมเวย์ทั้งหมดในจีนเมื่อปีที่แล้วโตขึ้น 20-25% มียอดขายกว่า 1 แสนล้าน จากคนขายแอมเวย์ในจีนทั้งหมด 4 แสนคน
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นทั่วไป